หนังระทึกขวัญสายลับเจมส์ บอนด์ไม่มีเวลาที่จะตายถูกเลื่อนจากเดือนพฤศจิกายนไปเป็นการเปิดตัวทั่วโลกในเดือนเมษายน 2564 เนื่องจากการแพร่ระบาดและโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดยุโรปตะวันตกที่สำคัญ
การเลื่อนงานสำคัญครั้งล่าสุดในปี 2020 ถือเป็นอีกปัญหาหนึ่งสำหรับภาคส่วนนิทรรศการที่ประสบปัญหา
เกิดขึ้นในขณะที่ระดับการติดเชื้อ Covid-19 เพิ่มขึ้นในยุโรปตะวันตกรวมถึงสหราชอาณาจักร ตลาดที่สำคัญสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้มักจะมีส่วนสำคัญต่อรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศต่างประเทศของ 007 โดยสร้างรายได้ที่ยังไม่ได้ปรับปรุง 125 ล้านเหรียญสำหรับอสุรกาย(2015) จาก 681 ล้านดอลลาร์ในต่างประเทศ และ 161 ล้านดอลลาร์จาก 804 ล้านดอลลาร์สำหรับฝนตกหนัก(2012)
เป็นที่เข้าใจกันว่ากระแสไฟกระชากในสเปน ฝรั่งเศส และเยอรมนีมีส่วนในการตัดสินใจครั้งนี้ ตามที่ประกาศเมื่อวันศุกร์ (2 ต.ค.)
ภาพรวมที่น่าสยดสยองทำให้ละตินอเมริกายังคงดิ้นรนต่อไป ในขณะที่ความไม่แน่นอนยังคงอยู่เมื่อโรงภาพยนตร์ในนิวยอร์กและลอสแอนเจลิสจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในสหรัฐอเมริกา
“MGM, Universal และโปรดิวเซอร์ของ Bond, Michael G Wilson และ Barbara Broccoli ได้ประกาศเปิดตัวภาพยนตร์ดังกล่าวในวันนี้ไม่มีเวลาที่จะตาย,25ไทยภาพยนตร์ซีรีส์เจมส์ บอนด์จะเลื่อนไปจนถึงวันที่ 2 เมษายน 2021 เพื่อให้ผู้ชมละครทั่วโลกได้ชม” อ่านคำแถลงของ MGM
“เราเข้าใจว่าความล่าช้าจะทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง แต่ตอนนี้เรารอคอยที่จะแบ่งปันไม่มีเวลาที่จะตายปีหน้า”
วันที่ 2 เมษายน 2021 ยังเป็นวันวางจำหน่าย Universal's ในสหรัฐอเมริกาอีกด้วยF9-
MGM จัดการการจัดจำหน่ายในสหรัฐฯ ผ่านการร่วมทุน UAR กับ Annapurna และกำหนดวางจำหน่ายในสหรัฐฯ ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ควบคู่ไปกับญี่ปุ่น
กำหนดเข้าฉายในสหราชอาณาจักรในวันที่ 12 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันเดียวกับตลาดสำคัญๆ อื่นๆ รวมถึงออสเตรเลีย อิตาลี และสเปน ผ่านทางผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์นานาชาติ ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส
Cary Joji Fukunaga กำกับ Daniel Craig ในการแสดงครั้งสุดท้ายในบทบาท 007 นอกจากนี้ยังมี Ana de Armas, Rami Malek, Léa Seydoux, Naomie Harris และ Ralph Fiennes ร่วมแสดงด้วย
ไม่มีเวลาที่จะตายเดิมมีกำหนดเปิดให้บริการในเดือนเมษายนของปีนี้ และกลายเป็นผู้เสียชีวิตรายใหญ่รายแรกจากการแพร่ระบาดเมื่อ MGM ประกาศเลื่อนออกไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน